1.
การบูรณาการงานวิจัยกับการเรียนการสอน มีการบูรณาการดังนี้
1.1 กรณีที่นักศึกษาบัณฑิตศึกษาเป็นทีมวิจัยของอาจารย์
โดยอาจารย์มีงานวิจัยในลักษณะ ชุดโครงการวิจัยที่เป็นร่มใหญ่และมีงานวิจัยย่อยๆ
โดยนักศึกษาเข้าเป็นทีมในการวิจัยของอาจารย์ในชุดย่อยๆ
และมีอาจารย์ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการชุดใหญ่ ให้คําแนะนําปรึกษา
นักศึกษาจะได้ฝึกฝนกระบวนการวิจัย ตั้งแต่ต้นจนจบ
ทําให้นักศึกษาเกิดทักษะในกระบวนการทําวิจัย
1.2 กรณีที่นักศึกษาปริญญาตรีทําโครงการวิจัย หรืองานสร้างสรรค์
ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานวิจัย หรืองานสร้างสรรค์ของอาจารย์
เป็นการออกแบบการเรียนการสอนด้วยการมอบหมายงานนักศึกษาใน
รูปแบบที่เป็นองค์ประกอบงานวิจัย โดยมีอาจารย์ควบคุมการดําเนินงานเป็นระยะ ๆ
แต่มิใช่รายวิชาวิจัย หรือ
อาจารย์มีโครงการวิจัยและให้นักศึกษาร่วมเป็นทีมการทําวิจัยที่มีการมอบหมายงานอย่างชัดเจน
หรือให้ นักศึกษา เป็นผู้ช่วยนักวิจัยในโครงการวิจัย (Under Study Concept)
ที่มีแผนการวิจัยชัดเจนว่านักศึกษามีส่วน ร่วมในกระบวนการใดบ้าง
เช่น การทบทวนเอกสาร การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งวิธีนี้ต่างจากวิธี
แรกที่นักศึกษาได้เรียนรู้กระบวนการทําวิจัยครบทุกขั้นตอน แต่วิธีที่สองนี้
นักศึกษาได้เรียนรู้บางส่วนของ การวิจัยเท่านั้น
ดังนั้นอาจารย์ควรดําเนินการเพิ่มเติมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ครบ กระบวนการด้วย
1.3 กรณีที่นักศึกษาทุกระดับ ปริญญาตรี ปริญญาโท
และปริญญาเอกเข้าฟังการบรรยายหรือ สัมมนา
เกี่ยวกับผลความก้าวหน้าในงานวิจัยของอาจารย์ หรือ
เข้าร่วมการจัดแสดงงานสร้างสรรค์ของ อาจารย์
เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์โดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ
แต่วิธีการนี้นักศึกษาต้องมีค่าใช้จ่ายใน
การเข้าร่วมงานอาจทําให้นักศึกษาเข้าร่วมงานได้บางส่วนเท่านั้น อาจารย์
ควรมอบหมายงานให้ผู้ที่เข้า
ร่วมงานสรุปสิ่งที่ได้จากการเข้ารับฟังการบรรยายหรือสัมมนาเกี่ยวกับการวิจัย
และนํามาร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ร่วมกัน
1.4 จัดให้มีการประชุมนําเสนอผลงานวิจัยหรือแสดงงานสร้างสรรค์ของนักศึกษา
หรือ ส่งเสริมนักศึกษาเข้าร่วมประชุมการเสนอผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ระดับชาติและนานาชาติ
1.5
การส่งเสริมให้อาจารย์นําผลลัพธ์ที่เกิดจากการวิจัยไปเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาในการ
จัดการเรียนการสอน
หมายถึงอาจารย์มีผลงานวิจัยที่สอดคล้องกับกับรายวิชาที่สอนและนําองค์ความรู้ที่เป็น
ยัดต้นพบจากงานวิจัยมาใช้ประกอบการจัดการเรียนการสอน
เพราะการวิจัยทําให้มีการค้นพบความรู้ใหม่ๆ
เวลา
ทําให้นักศึกษามีความรู้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ในการนําผลงานวิจัยมาใช้สอนนั้นต้องเป็น
ละองอาจารย์ผู้สอนเองไม่สามารถนําผลงานวิจัยของบุคคลอื่นที่เป็นภายนอกมาไม่เรียกว่าเกิด
การบูรณาการ
บุคคลภ
2.
การบูรณาการงานบริการวิชาการแก่สังคม
การบริการวิชาการหมายถึง กิจกรรมหรือ
ให้บริการแก่สังคมภายนอกสถาบันหรือเป็นการให้บริการที่จัดในสถาบันแต่ต้องเป็นการจัดให้กับอกประเภทของการบริการวิชาการมีดังนี้ประเภทให้เปล่าโดยไม่มุ่งเน้นผลกําไร
เป็นลักษณะงาน วิชาการหรือกิจกรรมที่จัดเพื่อบริการสังคม
โดยมหาวิทยาลัยได้จัดสรรงบประมาณ และ/หรือมีองค์กร
นายสนับสนุนในการลงทุนสําหรับการจัดกิจกรรม
และให้ผู้ใช้บริการหรือผู้ร่วมกิจกรรมในการออก มาใช้จ่าย ด้วยอีกส่วนหนึ่ง
และประเภทหารายได้เป็นลักษณะงานบริการวิชาการหรือกิจกรรมที่จัดเพื่อ งบริการบุคคล
กลุ่มบุคคล/องค์กร ภาครัฐ และเอกชน โดยผู้เข้าอบรมต้องเสียค่าใช้จ่าย
(งานบริการวิชาการ มหาวิทยาลัย มหิดล, 2556) ในการบูรณาการวิชาการแก่สังคม
สามารถดําเนินการได้ดังนี้
2.1 การบูรณาการงานบริการทางวิชาการแก่สังคมกับการเรียนการสอนเป็นการจัด
กระบวนการเรียนการสอนปกติ
และมีการกําหนดให้นักศึกษานําความรู้ที่ได้รับจัดทําเป็นโครงการหรือ กิจกรรม
ไปบริการวิชาการให้กับบุคคลภายนอก
2.2
การบูรณาการงานบริการทางวิชาการแก่สังคมกับการวิจัยเป็นการนําองค์ความรู้จาก
งานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ หรือการนําความรู้
ประสบการณ์จากการบริการวิชาการกลับมาพัฒนาต่อยอด ความรู้ใหม่โดยผ่านกระบวนการวิจัย
3.
การบูรณาการงานด้านทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรมกับการจัดการเรียนการสอน
สถาบันควรสนับสนุนให้มีการทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรมไปบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอน
คือมีการจัดการ
เรียนการสอนที่นําการทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรมไปผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนการ
สอน เมื่อมีการบูรณาการกําหนดให้มีการประเมินความสําเร็จของการบูรณาการ
และมีการนําผลการประเมิน ไป ปรับปรุงการบูรณาการงานด้านทํานุบํารุงศิลปะและวัฒนธรรมการจัดการเรียนการสอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น